วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผัดกะเพราเจ

ผัดกะเพราเจ


ส่วนประกอบ
หมี่กึงสับ 1 ถ้วย
ถั่วฝักยวหั่นท่อนสั้น 1/2 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อนหั่นเฉียง 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 1 เม็ด
เห็ดฟาง 1/2 ถ้วย
ใบกะเพรา 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาวเจ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอยเจ 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรสเจ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. นำกระทะตั้งไฟอ่อนใส่พริกขี้หนูทุบลงปัดจนหอม
2. จากนั้นจึงใส่ตามด้วยหมี่กึงสับ ถั่วฝักยาวหั่น ข้าวโพดอ่อน และเห็ดฟาง ลงไปผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ปรุงตามชอบ
4. ใส่พริกชี้ฟ้าและใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากันดับไฟตักใส่จาน
         ใบกะเพรา มีสรรพคุณในการช่วยขับลม กระตุ้นการหลั่งน้ำดี ทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยกระตุ้นระบบทางเดิมหายใจ ช่วยในการขับเสมหะ ผู้ป่วยเป็นเบาหวานระดับเพิงเริ่มเป็นยิ่งถ้าหาก รับประทานกะเพราเป็นประจำก็จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นเล็กน้ยอแต่ไม่สามารถใช้เป็นยาได้

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ยำเห็ดรวม

ยำเห็ดรวม


ส่วนประกอบ
เห็ดฟาง 4 ดอก
เห็ดหูหนู 4 ดอก
เห็ดนางฟ้า 4 ดอก
หมูยอเจ 1/2 ท่อน
มะนาว 1 ลูก
มะเขือเทศ 1 ลูก
พริกขี้หนูสดทุบ 10 เม็ด
ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. ต้มน้ำให้เดือด ล้างเห็ดต่างๆ ให้สะอาด หั่นพอคำ ต้มให้สุก พักไว้
2. หั่นเครื่องปรุง ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ พริก ให้ละเอียด แล้วเทใส่ภาชนอีกใบสำหรับผสม
3. พอเห็ดสุกเอาน้ำต้มออก เทเห็ดใส่หม้อที่มีเครื่องปรุง แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว และมะนาว
4. ชิมตามชอบ ตักใส่จาน
         เห็ด ชนิดต่างๆ นั้นมีแคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ ไร้คอเลสเตอรอล ธาตุโพแทสเซียมสูงซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความดัน และยังมีสารซีลีเนียมที่เป็นสารต้านมะเร็ง เห็ดอุดมด้วยวิตามินบี

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แกงเขียวหวานลูกชิ้นเจ

แกงเขียวหวานลูกชิ้นเจ



ส่วนประกอบ
หมี่กึงลูกชิ้น 1 ถ้วย
ฟักเขียว 1 ลูก
มะเขือเปราะ 3 ลูก
ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 2 เม็ด
น้ำพริกแกงเขียวหวานเจ 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
หางกะทิ 2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
เกลือ 2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. นำหัวกะทิใส่กระทะตั้งไฟ เคี่ยวพอเดือดใส่น้ำพริกแกงลงผัดให้หอม
2. ใส่หมี่กึงลูกชิ้น ผัดเข้ากันจนสุก
3. ตักหมี่กึงกับเครื่องแกงที่ผัดไว้ใส่ในหม้อ นำหางกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนจนเริ่มร้อน
4. เมื่อเริ่มเดือดจึงค่อยใส่ฟักเขียว ใบมะกรูด และปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือ ตามใจชอบ
5. รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้ง จึงใส่ใบโหระพา พริกขี้ฟ้า พร้อมเสิร์ฟ
         ฟักเขียว ห้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีเยี่ยม ซึ่งประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีนแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1  วิตามินบี 2 ไนอาซีน และวิตามินซี ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย และฟักเขียวยังมีสรรพคุณที่ช่วยในการขับปัสสาวะ ขับ เสมหะแก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสษ

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข้าวผัดเจ

ข้าวผัดเจ



ส่วนประกอบ
ข้าวสวย 1 ถ้วย
เห็ดหอมหั่นชิ้นเล็ก 2 ดอก
ถั่วฝักยาวหั่น 1/4 ถ้วย
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย
เต้าหู้เหลืองหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1.ใส่น้ำมันพืชในกระทะประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟอ่อน นำเห็ดหอม ลงผัด จนเริ่มเหลือง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย พอให้มีกลิ่นหอม
2. ใส่เต้าหู้ถั่วฝักยาว แครอท ผัดให้เข้ากัน
3. เมื่อส่วนประกอบอื่นๆ เข้ากันดีจึงใส่ข้าวลงผัด
4.ใส่ซีอิ๊วดำเล็กน้อย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดจนสุกทั่ว ตักใส่จาน ยกเสิร์ฟ
         ถั่วฝักยาว มีใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดให้ลดลง ยังมีวิตามินซีที่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี ธาตุเหล็กช่วยให้เลือดดี ทั้งหุ่นสวย ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีเลือดฝาด กากใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ในถั่วฝักยาวนี้ จะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพราะอาหาร ทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผัดผักกาดดอง

ผัดผักกาดดอง



ส่วนประกอบ
ผักกาดดอง 1 ถ้วย
หมี่กึง 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
น้ำมันหอยเจ 1 ช้อนชา
น้ำเปล่านิดหน่อย
วิธีการทำ
1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมัน พอร้อนผัดหมี่กึงให้สุก
2.ใส่ผักกาดดองลงผัดต่อจนนุ่ม ใส่เครื่องปรุง ปรุงรสตามชอบ หรือให้ออกหวานนำ ยกเสิร์ฟ
         ผักกาดเขียว มีวิตามินเออยู่ปริมาณมาก ทางการแพทย์จีน จัดเป็นผักรสเผ็ด ฤทธิ์อุ่น ไม่มีพิษ มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ เมล็ดพันธุ์ เป็นยาแก้ปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ กระเพราะเย็น ไอเสมหะมาก

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มะระผัดผักกาดดอง

มะระผัดผักกาดดอง



ส่วนประกอบ
มะระต้มสุก 1 ถ้วย
ผักกาดดอง 1 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่านิดหน่อย
วิธีการทำ
1. ล้างมะระให้สะอาด เอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้น คลุกด้วยเกลือ ลวกในน้ำร้อน จากนั้นช้อนขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. หั่นผักกาดดองเป็นชิ้นพอคำ
3. นำผักกาดดองผัดในน้ำมัน ใช้เวลาพอสมควรให้ผักหอม แล้วใส่ตามด้วยมะระ และเครื่องปรุงต่างๆ
4. เมื่อน้ำเริ่มงวดลง ให้ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากัน ยกเสิร์ฟ
         ความขมของมะระ นั้นสามารถช่วยให้เราเจริญอาหาร เพราะสารขมที่อยู่ในมะระนั้นจะช่วยกระตุ้นในน้ำย่อยออกมามาก จึงทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น และในมะระยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี วิตามินบี1 - บี3 เบตาแคโรทีน ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม เป็นต้น

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แกงส้มผักรวมเจ

แกงส้มผักรวมเจ



ส่วนประกอบ
กะหล่ำปลี 1/2 หัว
หัวไชเท้าหั่นเป็นท่อน 1/2 ถ้วย
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน 1 ถ้วย
ผักกวางตุ้งหั่นเป็นท่อน 1/2 ถ้วย
หรือผักอื่นๆ ตามแต่ชอบ
น้ำพริกแกงส้มเจ 3 ช้อนโต๊ะ
กะปิเจ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. นำน้ำพริกแกงส้ม กะปิ ละลายกับน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟ
2. พอเดือดใส่หัวไชเท้า กะหล่ำปลี ผักกวางตุ้ง ลงไปในหม้อ
3. เมื่อผักสุกปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ รสตามใจชอบ
4. รอให้เดือดอีกครั้งจึงใส่ถั่วฝักยาว พอสุก ยกลงพร้อมเสิร์ฟ
         ถั่วฝักยาว ห้แคลเซียม ฟอสฟอรัส และยังมีไฟเบอร์ หรือ กากใยอาหารที่จะช่วยในเรื่องการขับถ่าย
         หัวไชเท้า ช่วยกำจัดพิษ และช่วยให้ปัสสาวะใส ช่วยชำระล้าง ผนังกระเพราะอาหารและลำไส้ ช่วยย่อย และยังช่วย ให้การหายใจโล่งขึ้น

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เต้าหู้เจทรงเครื่อง

เต้าหู้เจทรงเครื่อง



ส่วนประกอบ
เต้าหู่อ่อนสีเหลือง 2 แผ่น
ข้าวโพดอ่อน 3 ฝัก
มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ถ้วย
ถั่วฝักยาวซอย 1/2 ถ้วย
แครอทหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. นำเต้าหู่อ่อนสีเหลืองหั่นออกเป็นสี่ชิ้น ลงทอดในน้ำมันพอสุกเหลือง แล้วพักไว้
2. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืชประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นำผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ลงผัดสักครู่
3. เมื่อผัดแล้วให้ใส่น้ำลงไปพอประมาณ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ชิมรสตามใจชอบ
4. เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วค่อยใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากัน ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
         แครอท ป็นผักที่ให้ฟอสฟอรัส เหล็ก และมีสารเบตาแคโรทีน ในปริมาณที่สูง ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง แต่ควรกิน แครอทที่สุกแล้ว เพราะจะให้เบตาแคโรทีนมากกว่าในผักดิบถึง 5 เท่า

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ต้มจับฉ่ายเจ

ต้มจับฉ่ายเจ



ส่วนประกอบ
กะหล่ำปลี 1 ถ้วย
คะน้า 1 ถ้วย
ขึ้นฉ่าย 1 ถ้วย
ผักกวางตุ้ง 1 ถ้วย
หัวไชเท้า 1 ถ้วย
มะระ 1 ถ้วย
เห็ดหอม 1 ถ้วย
รากผักชี 4 ราก
เต้าหู่ทอด 2 ก้อน
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. หั่นผักทุกอย่างเป็นชิ้นโตๆ
2. โขลกรากผักชีให้แหลก แล้วนำไปเจียวกับน้ำมันพืชจนหอมแล้วตักใส่หม้อ
3. นำผักชนิดต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้ใส่ลงหม้อ
4. เติมน้ำพอท่วมผัก ใส่เห็ด และเต้าหู่ที่ทอดไว้ ตั้งไฟอ่อนจนเดือด
5.เมื่อน้ำเริ่มเดือดจึงค่อยใส่มะระ แล้วต้มด้วยไฟอ่อนทิ้งเอาไว้
6. เมื่อผักต่าง เริ่มสุกจึงค่อยปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลปี๊บ ซอสถั่วเหลือง และซีอิ๊วดำ
7. แล้วต้มต่อด้วยไฟอ่อนให้เปื่อยจึงค่อยยกลง
         มะระ ีคุณสมบัติช่วยในการบำบัด และรักษาโรคเบาหวานระยะเริ่มต้น
       
         ผักกวงตุ้ง ได้โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินซี และเบตาแคโรทีน
       
         ผักคะน้า ให้วิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื่น และ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรง และยังเป็นแหล่งของแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว

มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว



ส่วนประกอบ
มะเขือยาว 2 ลูก
โหระพา 1 ถ้วย
เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
1.หั่นมะเขือยาวเป็นท่อนๆ แช่ในน้ำเกลือประมาณ 5 นาที พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันจนร้อน ใส่มะเขือยาวลงไปผัดด้วยไฟแรงและใส่น้ำเปล่าผัดจนนิ่ม
3. เมื่อมะเขือยาวนิ่มได้ที่แล้วจึงค่อยใส่เต้าเจี้ยว และเครื่องปรุงอื่นๆ ชิมรสตามชอบ แล้วจึงค่อยใส่โหระพาแล้วคลุกให้เข้ากันตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
         มะเขือยาว ั้นมีโปรตีนและแคลเซียมสูง ถ้ารับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาหลอดเลือดและหัวใจให้เป็นปกติ ทั้งยังช่วยป้องกันเส้นเลือดและป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เสริมการทำงานของสมอง และเสริมความจำ

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ฟองเต้าหู่ผัดสับปะรด

ฟอ


ส่วนประกอบ
สับปะรดหั่น 1 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 2 เม็ด
ขิงซอย 1/2 ถ้วย
ฟองเต้าหู้แช่น้ำหั่นฝอย 1 ถ้วย
ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืช แล้วจึงนำเห็ดหูหนู และฟองเต้าหู้ลงไปผัดก่อน
2. จากนั้นจึงค่อยใส่สับปะรด และพริกชี้ฟ้า ขิงซอย ลงไปผัดด้วยกัน ใส่ซีอิ๊วขาว และน้ำเปล่านิดหน่อยลงไปผัด
3. เมื่อผัดจนเข้ากันพอดี ชิมรสตาใจชอบ จึงใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำ แล้วคนให้เข้ากัน โรยขึ้นฉ่าย ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
         สับปะรด มีคุณค่าทางยาสูง มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อ หรือโปรตีน และยังช่วยเสริมการดูดซึมอาหาร ดับร้อน แก้กระหาย สับปะรดยังมีสารจำพวกน้ำตาล กรด วิตามิน อยู่หลายชนิดด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ต้มพะโล้เจ

ต้มพะโล้เจ



ส่วนประกอบ
เต้าหู้ทอด 5 ก้อน
เห็ดหอมแช่น้ำ 10 ดอก
หมี่กึงแบบไส้หมู 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
ชีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแช่เห็ดหอม 3 ถ้วย
วิธีการทำ
1. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดเห็ดหอมให้พอหอม ใส่หมี่กึง ผัดพอสุก พรมซีอิ๊วขาวนิดหน่อย แล้วจึงตักใส่หม้อ
2.เติมน้ำแช่เห็ดหอมในหม้อ ใส่เต้าหู่ ตั้งไฟกลาง พอเดือดใส่เครื่องปรุง ทั้งหมดลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ ยกเสิร์ฟ

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

น้ำพริกอ่องเจ

น้ำพริกอ่องเจ


ส่วนประกอบ
โปรตีนเกษตรสับ 1 ถ้วย
มะเขือเทศสีดาสับละเอียด 10 ผล
น้ำพริกกางส้มเจ 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมัน พอร้อนใส่น้ำพริกลงผัดให้หอม
2. ใส่โปรตีนเกษตร มะเขือเทศ เติมน้ำเปล่า ผัดให้เข้ากันจนสุก
3. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ชิมรสตามใจชอบ หรือจะให้ออกมีรสหวานเค็ม เปรี้ยวนิดหน่อยจากมะเขือสีดา พร้อมเสิร์ฟผักเครื่องเคียง

         มะเขือเทศสีดา จะมีรสเปรี้ยวและเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยในการกระตุ้นและบำรุงกระเพราะอาหาร ไต และ ลำไส้ ช่วยขับพิษและ สิ่งคั่งค้างต่างๆ ต่างกายได้ดี

บทความที่ได้รับความนิยม